การรำบูชาพระธาตุพนม เป็นการรวมตัวของชนพื้นเมือ งต่าง ๆ รวม 7 เผ่า ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพน ม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าประจำเผ ่าของตน และร่ายรำในท่วงท่าอันงดงาม เพื่อบูชาองค์พระธาตุพนม และจะแสดงในวันแรกของงานนมั สการพระธาตุพนมประจำปี รำบูชาพระธาตุพนม ณ บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีพระราชธีราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม เป็นประธานสงฆ์ ประกอบพิธีทางศาสนาในพิธีรำ บูชาพระธาตุพนมซึ่งจังหวัดน ครพนม คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวจ ังหวัดนครพนม ร่วมจัดขึ้นในพิธี ก่อนไหลเรือไฟในวันออกพรรษา การรำบูชาถวายองค์พระธาตุพน ม เป็นประเพณีอันดีงามของชาวจ ังหวัดนครพนม ซึ่งถือปฏิบัติมาเป็นเวลาช้ านาน จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเทศ กาลงานสำคัญ เช่น งานเทศกาลนมัสการพระธาตุพนม หรือในวันออกพรรษาก่อนงานไห ลเรือไฟ ก่อนการรำบูชาพระธาตุพนมนั้ น ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน ได้ร่วมแห่เครื่องสักการบูช าประธานในพิธี ได้กล่าวคำบูชาไหว้พระธาตุพ นม หลังจากนั้น ได้จัดชุดรำบูชาพระธาตุพนม 7 ชุด คือ รำตำนานพระธาตุพนม รำศรีโคตรบูรณ์ รำผู้ไทยรำหางนกยูง รำไทยญ้อ รำขันหมากเบ็ง และรำเซิ้งอีสาน มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจ ากหลายจังหวัด มาเที่ยวชมประเพณีรำบูชาประ ธาตุพนม อย่างเนืองแน่น.
ชุดที่1 รำตำนานพระธาตุพนม
เป็นการรำบูชาพระธาตุพนมที่ปรับปรุงมาจากการฟ้อนรำแห่กองบุญในเทศกาลงานนมัสการพระธาตุพนม ได้นำเอาบทสวดสดุดีองค์พระธาตุพนมทำนองสรภัญญะ มาประกอบกับวงดนตรีมโหรี ซึ่งกล่าวถึงตำนานและความพิสดารขององค์พระธาตุพนม
การรำชุดนี้แสดงครั้งแรกในงานสมโภชพระธาตุพนมองค์ใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2522 ถือเป็นเอกลักษณ์ใช้รำเปิดงานนมัสการพระธาตุพนมทุกครั้ง จนถึงปัจจุบัน และได้นำมารำบูชาพระธาตุพนมในงานไหลเรือไฟของจังหวัดนครพนมตั้งแต่ พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา
Pra Thaphanom Legend Dance
First performed during the Royal ceremony for the ornamental umbrella installation in 1979. The dance symbolizes the people's dovotion to Pra Thatphanom in the annual Illuminated Boat festival since 1987.
ชุดที่2 รำศรีโคตรบูร
ชุดที่3 รำภูไท
ชุดที่4 รำหางนกยูง
รำหางนกยูงกำเนิดมาแล้วประมาณ 100 ปีเศษ ใช้สำหรับรำบวงสรวงสักการะเจ้าพ่อหลักเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อประทานพรให้มีชัยชะและแคล้วคลาดจากภยันตรายในการเข้าแข่งขันชิงชัยต่างๆ โดยเฉพาะในการแข่งขันเรือยาวในเทศกาลออกพรรษา ปกติการรำชนิดนี้จะแสดงท่ารำบนหัวเรือแข่งและรำถวายหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ท่ารำได้ดัดแปลงมาจากการรำไหว้ครูของนักรบก่อนออกศึกสงครามในสมัยก่อน โดยรำอาวุธตามที่ตัวเองฝึก คือรำดาบ รำกระบี่กระบองเข้าจังหวะกลองยาว
Peacock Tail Dance
The Peacock Tail Dance is another of Nakhonphanom' s local dance styles, usually performed at the annual festival celebrating the end of Buddhist Rain Retreat (Awk Phunsa) to ask for blessing the spirit of the city for luck,strength and safty.
ชุดที่5 รำไทญ้อ
"ไทญ้อ" เป็นชนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีถิ่นอาศียอยู่ในเขตอำเภอท่าอุเทน นาหว้าและโพนสวรรค์ โดยปกติการรำไทญ้อจะพบในเทศกาลสงกรานต์ในช่วงเดือนเมษายนและเทศกาลที่สำคัญเท่านั้น
ในเทศกาลสงกรานต์ชาวไทญ้อจะมีสรงน้ำในตอนกลางวัน โดยมีการตั้งขบวนแห่จากคุ้มเหนือไปยังคุ้มใต้ลงมาตามลำดับ ตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เป็นต้นไป จนถึงวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 5 ในตอนกลางคืน หนุ่มสาวชาวบ้านจะจัดทำขบวนแห่ดอกไม้บูชาพระธาตุ โดยนำต้นดอกจำปา(ลั่นทม) ไปบูชาวัดต่างๆ โดยจะเริ่มจากวัดใต้สุดไปหาวัดเหนือสุด ซึ่งจะเป็นคืนสุดท้าย
เมื่อเสร็จพิธีแห่ดอกไม้บูชาองค์พระธาตุ จะเป็นช่วงแห่งความสนุกสนานของหนุ่มสาว ซึ่งจะมีการหยอกล้อ การเกี้ยวพาราสีของบรรดาหนุ่มสาว
Tai Yo Dance
"Tai Yo" is another subgroup found mostly in THa U- Ten, NaWa and Phon Sawan districts of Nakhonphanom. The Tai Yo Dance is always performed during the Songkran (Flash) festival in April and during another special Buddhist holidays.
ชุดที่6 รำขันหมากเบ็ง
รำขันหมากเบ็ง
"หมากเบ็ง" เป็นเครื่องบูชาชนิดหนึ่งของภาคอีสาน คำว่า "เบ็ง" มาจาก "เบญจ" หมายถึงการบูชาพระเจ้า 5 พระองค์ คือ กกุสันโท โกนาคมโน กัสสโป โคตโม และอริยเมตตรัยโย ในสมัยพุทธกาลนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลได้นำขันหมากเบ็งถวายพระพุทธเจ้า ในปัจจุบันนี้ชาวอีสานโดยเฉพาะเผ่ากะเลิงใช้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ ด้วยเหตุนี้จึงได้นำมาประดิษฐ์เป็นท่าฟ้อนรำเพื่อบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในการแสดงการฟ้อนรำขันหมากเบ็งแสดงถึงพญาทั้งห้าแห่งอาณาจักรศรีโคตรบูรได้นำขันหมากเบ็งมาถวายองค์พระธาตุพนม
Khun Mak Beng Dance
Mak Beng is an elaborated local natural objects, such as flower, banana's leave and other plant productivity. In the ancient time, It used to pay respect to the Five Great Buddhas; There are Kakusandho, Khonakamano, Kassapo, Khodhamo and Ariyametraiyo. The king Pasendhikosala in ancient India used to pay respect to the Buddha in the buddist era.
Now a day the Khun Mak Beng is made for pay respect to the Tripple Gemes; There are the Buddha, Drama and Sangha (Monks) which lead by the Esarn sub-group called "Ka Rerng" The dancing show the Five Kings of the Ancient Srikottaboon Kingdom pay respect to Phrathatphanom shrine with Khun Mak Beng.
รำเซิ้งอีสานบ้านเฮา โดยนำเอาชุดรำทั้ง6ชุดมารวมกัน